ผลการประชุมกลุ่มศึกษาตะกั่วและสังกะสีระหว่างประเทศ
ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม 2548 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร 

 ไฟล์รายละเอียดในรูปแบบ pdf>> Click ที่นี่
นายอนุสรณ์ เนื่องผลมาก อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และนายสุรพงษ์ เชียงทอง ผู้อำนวยการสำนักอุตสาหกรรมพื้นฐาน พร้อมด้วยนายพินิต วงศ์มาศา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมประชุมกลุ่มศึกษาตะกั่วและสังกะสีระหว่างประเทศ (International Lead and Zinc Study Group: ILZSG) ซึ่งไทยเป็นสมาชิก ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม 2548 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพบปะผู้ประกอบการเหมืองแร่และโรงถลุงแร่ตะกั่วและสังกะสีของประเทศสมาชิกจำนวน 28 ประเทศ และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการจัดหาวัตถุดิบแร่ตะกั่วและสังกะสี ซึ่งความต้องการใช้มีปริมาณมากขึ้น รวมทั้งราคาก็มีการปรับราคาอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย รัสเซีย และแอฟริกาใต้ มีการสำรวจและพัฒนาแหล่งแร่ตะกั่วและสังกะสีเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยปี 2548 ทั่วโลกมีผลผลิตแร่ตะกั่ว 3.33 ล้านตัน และแร่สังกะสี 10.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 และ 3.6 ตามลำดับ ในขณะที่การใช้โลหะตะกั่วมีประมาณ 7.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ในจีนที่มีมากขึ้น สำหรับการใช้สังกะสีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี 2548 มีการใช้ประมาณ 10.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 โดยเป็นผลสืบเนื่องจากจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคหลัก มีโครงการก่อสร้างและสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ รวมทั้งการใช้เพิ่มขึ้นในอินเดีย และเกาหลี สำหรับแนวโน้มในปี 2549 คาดว่า ผลผลิตทั้งโลหะตะกั่วและโลหะสังกะสีจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 3.5 โดยเป็นการขยายการผลิตของจีน อินเดีย และแคนาดา 
นอกจากการเข้าร่วมประชุมแล้ว คณะผู้แทนไทยพร้อมด้วยผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสเข้าพบหารือกับ Mr. Do Huu Hao รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประเทศเวียดนาม โดยได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับแหล่งแร่ตะกั่วและสังกะสี ซึ่งเวียดนามมีแหล่งแร่ดังกล่าวอยู่บริเวณภาคเหนือกว่า 80 แหล่ง ปริมาณสำรองแร่ตะกั่ว 1.8 ล้านตัน และแร่สังกะสี 2 ล้านตัน มีการทำเหมืองแล้ว 22 รายใน 5 แหล่ง รวมกำลังการผลิตแร่ดิบ 10,000 ตันต่อปี และมีเหมืองอีกกว่า 20 รายอยู่ระหว่างผลิตแร่ รวมกำลังการผลิตแร่ดิบ 5,000 ตันต่อปี เวียดนามได้กำหนดแผนแม่บทการพัฒนาการสำรวจและทำเหมืองตะกั่วและสังกะสี (ปี พ.ศ. 2548-2553) ตั้งเป้าหมายให้มีโรงถลุงตะกั่วและสังกะสี 5 ราย ภายในปี พ.ศ. 2554 ซึ่งจะตอบสนองความต้องการบริโภคในประเทศ เป็นสัดส่วนร้อยละ 60 สำหรับตะกั่ว และร้อยละ 25 สำหรับสังกะสี โดยจะบรรลุเป้าหมายได้ต้องมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กำหนดนโยบายส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม ขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ แสวงหานักลงทุนต่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาความร่วมมือด้านวิชาการ สำหรับประเทศไทยนั้นได้มีความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมกับเวียดนามมาโดยตลอด โดยไทยได้นำเข้าแร่สังกะสีจากเวียดนามมากว่า 10 ปีแล้ว ในการพบปะครั้งนี้ผู้ประกอบการไทยได้แสดงความสนใจในการลงทุนสำรวจและทำเหมืองแร่สังกะสีในเวียดนามด้วย ซึ่งจะได้ดำเนินการในรายละเอียดต่อไป 

สรุปผลการประชุมโดย . . .
สำนักอุตสาหกรรมพื้นฐาน กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
โทร. 0 2202 3608-9 โทรสาร 0 2202 3606