กฎกระทรวง
ฉบับที่ 21 (พ.ศ. 2522)
ออกตามความในพระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509
.................................

          อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2519 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติพิกัดค่าภาคหลวงแร่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 และมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
           ข้อ 1 ให้ยกเลิก
           (1) (3 ทวิ) ของข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2514) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2521) ออกตามความในพระราชบัญญัติพิกัด อัตราค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509
           (2) ข้อ 5 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2521) ออกตามความ ในพระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509
           (3) เลขลำดับ 32 ของ (ก) แร่ แห่งบัญชีแร่และอัตราค่าภาคหลวงแร่ ท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2521) ออกตามความใน พระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509

           ข้อ 2 ในกฎกระทรวงนี้
           "แร่รัตนชาติ" หมายความว่า เพชร เพทายบุษราคัมทับทิม พลอยหรือ แร่ตระกูลคอรันดัม (Corundum) โกเมน และนิลหรือแร่ตระกูล
           สบิเนล (spinel)
           "ปี" หมายความว่า ปีประดิทิน
           ข้อ 3 ในแต่ละปี ให้อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีประกาศประเมินมูลค่าแร่รัตนชาติ ในแต่ละท้องที่ที่มีการออกประทานบัตรชั่วคราว
           หรือประทานบัตร
           การประเมินมูลค่าแร่ตามวรรคหนึ่ง ให้ถือเอามูลค่าเฉลี่ยของแร่รัตนชาติที่ พึงทำเหมืองได้ในที่ดินหนึ่งไร่ในแต่ละท้องที่เป็นเกณฑ์
ประเมิน
           ข้อ 4 ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่รัตนชาติเป็นรายปี ในอัตราร้อยละสิบของ มูลค่าแร่ที่อธิบดีประกาศประเมินตามข้อ 3 โดยคิดตาม เนื้อที่ที่ผู้ถือประทานบัตรชั่วคราว หรือ ผู้ถือประทานบัตรแสดงความจำนงว่าจะทำเหมืองในปีนั้น
           ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้ถือประทานบัตรชั่วคราวหรือผู้ถือประทานบัตรทำเหมือง นอกเขตที่ได้แสดงความจำนงไว้ ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่ รัตนชาติสำหรับเนื้อที่ส่วนที่เกินจากเขต ที่ได้แสดงความจำนงจะทำเหมืองด้วย
           การแสดงความจำนงว่าจะทำเหมืองตามวรรคหนึ่ง ให้ทำเป็นหนังสือและ แสดงเขตที่จะทำเหมืองในปีนั้นไว้ในเขตประทานบัตรชั่วคราว หรือเขตประทานบัตร และให้ยื่นต่อทรัพยากรธรณีประจำท้องที่ในเวลาชำระค่าภาคหลวง
           ข้อ 5 การเรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่รัตนชาติ ให้เรียกเก็บล่วงหน้าแต่ละปี โดยให้ ชำระภายในวันที่ 31 มกราคมของปีนั้น หรือภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้ ทำเหมืองแร่รัตนชาติ แต่ทรัพยากรธรณีประจำท้องที่อาจผ่อนผันให้ชำระเป็นสองงวด โดยมี ธนาคารเป็นผู้ค้ำประกันได้

                                         ให้ไว้ ณ วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2522
                                        ลงชื่อ        ประสิทธิ ณรงค์เดช
                                             รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม