กฎกระทรวง
ฉบับที่ 23 (พ.ศ. 2523)
ออกตามความในพระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่
พ.ศ. 2509
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509 ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2520 มาตรา 5 และมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509 กับมาตรา 6 และมาตรา 7 แห่งพระราช บัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพิกัด อัตราค่าภาคหลวง แร่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิก
(1) กฎกระทรวง ฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2521) ออกตามความในพระราชบัญญัติพิกัดอัตรา ค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509
(2) กฎกระทรวง ฉบับที่ 20(พ.ศ. 2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติพิกัดอัตรา ค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509
ข้อ 2 ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่ดีบุก ตามราคาที่อธิบดีประกาศในอัตรา ดังต่อไปนี้
(1) ร้อยละศูนย์จุดหนึ่งของราคาโลหะดีบุกต่อหกสิบกิโลกรัม สำหรับราคาส่วนที่เกินสาม พันบาท แต่ไม่เกินเจ็ดพันบาท
(2) ร้อยละห้าของราคาโลหะดีบุกต่อหกสิบกิโลกรัม สำหรับราคาส่วนที่เกินเจ็ดพันบาท แต่ไม่เกินเก้าพันบาท
(3) ร้อยละสิบห้าของราคาโลหะดีบุกต่อหกสิบกิโลกรัม สำหรับราคาส่วนที่เกินเก้าพันบาท แต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นหนึ่งพันบาท
(4) ร้อยละสามสิบของราคาโลหะดีบุกต่อหกสิบกิโลกรัมสำหรับราคาส่วนที่เกินหนึ่งหมื่นหนึ่ง พันบาท แต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
(5) ร้อยละสี่สิบของราคาโลหะดีบุกต่อหกสิบกิโลกรัม สำหรับราคาส่วนที่เกินหนึ่งหมื่นสี่พัน บาท แต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นเจ็ดพันบาท
(6) ร้อยละห้าสิบของราคาโลหะดีบุกต่อหกสิบกิโลกรัม สำหรับราคาส่วนที่เกินหนึ่งหมื่นเจ็ด พันบาท แต่ไม่เกินสองหมื่นบาท
(7) ร้อยละหกสิบของราคาโลหะต่อหกสิบกิโลกรัม สำหรับราคาส่วนที่เกินสองหมื่นบาทขึ้นไป
ข้อ 3 ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่ชนิดที่มีทังสติกออกไซด์ ตามราคาที่อธิบดีประกาศในอัตรา ดังต่อไปนี้
(1) ร้อยละศูนย์จุดหนึ่งของราคาแร่ชนิดที่มีทังสติกออกไซด์ต่อหนึ่งหาบหลวง สำหรับราคา ที่ไม่เกินสามพันบาท
(2) ร้อยละห้าของราคาแร่ชนิดที่มีทังสติกออกไซด์ต่อหนึ่งหาบหลวง สำหรับราคาส่วนที่เกิน สามพันบาทแต่ไม่เกินสี่พันบาท
(3) ร้อยละสิบของราคาแร่ชนิดที่มีทังสติกออกไซด์ต่อหนึ่งหาบหลวง สำหรับราคาส่วนที่เกิน สี่พันบาท แต่ไม่เกินห้าพันบาท
(4) ร้อยละสิบห้าของราคาแร่ชนิดที่มีทังสติกออกไซด์ต่อหนึ่งหาบหลวง สำหรับราคาส่วนที่ เกินห้าพันบาท แต่ไม่เกินหกพันบาท
(5) ร้อยละยี่สิบของราคาแร่ชนิดที่มีทังสติกออกไซด์ต่อหนึ่งหาบหลวง สำหรับราคาส่วนที่เกิน หกพันบาทขึ้นไป
ข้อ 4 ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่ทองคำ ในอัตราร้อยละสองจุดห้าของราคาที่อธิบดีประกาศ
ข้อ 5 ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่เงินในอัตราร้อยละสิบของราคาที่อธิบดีประกาศ
ข้อ 6 ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่แทนทาไลท์และแร่โคลัมไบท์ที่รวมกันอยู่ ในอัตราร้อยละยี่สิบ ของราคาที่อธิบดีประกาศ
ข้อ 7 ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงตะกรันที่มีโคลัมเบียมเพนตอกไซด์ หรือตันตาลัมเพนตอกไซด์ หรือ ทั้งสองชนิดรวมกันอยู่ ในอัตราร้อยละห้าของราคาที่อธิบดีประกาศ
ข้อ 7 ทวิ ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่ตะกั่ว ตามราคาที่อธิบดีประกาศในอัตรา ดังต่อไปนี้
(1) ร้อยละสองของ ราคาแร่ตะกั่วต่อหนึ่งเมตริกตัน สำหรับราคาที่ไม่เกินแปดพันบาท
(2) ร้อยละห้าของ ราคาแร่ตะกั่วต่อหนึ่งเมตริกตัน สำหรับราคาส่วนที่เกินแปดพันบาท แต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นสองพันบาท
(3) ร้อยละสิบของ ราคาแร่ตะกั่วต่อหนึ่งเมตริกตัน สำหรับราคาส่วนที่เกินหนึ่งหมื่นสอง พันบาท แต่ไม่เกินสองหมื่นบาท
(4) ร้อยละสิบห้าของ ราคาแร่ตะกั่วต่อหนึ่งเมตริกตัน สำหรับราคาส่วนที่เกินสองหมื่น บาทขึ้นไป
ข้อ 7 ตรี ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่สังกะสี ตามราคาที่อธิบดีประกาศในอัตรา ดังต่อไปนี้
(1) ร้อยละสองของ ราคาแร่สังกะสีต่อหนึ่งเมตริกตัน สำหรับราคาที่ไม่เกินหนึ่งหมื่น บาท
(2) ร้อยละห้าของ ราคาแร่สังกะสีต่อหนึ่งเมตริกตัน สำหรับราคาส่วนที่เกินหนึ่งหมื่น บาท แต่ไม่เกินสองหมื่นบาท
(3) ร้อยละสิบของ ราคาแร่สังกะสีต่อหนึ่งเมตริกตัน สำหรับราคาส่วนที่เกินสองหมื่น บาท แต่ไม่เกินสามหมื่นบาท
(4) ร้อยละสิบห้าของ ราคาแร่สังกะสีต่อหนึ่งเมตริกตัน สำหรับราคาส่วนที่เกินสามหมื่น บาทขึ้นไป
ข้อ 7 จัตวา ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่แบไรท์บด ประเภทที่มีส่วนประกอบของแบเรียมซัลเฟต ตั้งแต่ร้อยละเก้าสิบเอ็ดขึ้นไป และมีความขาวตั้งแต่ร้อยละแปดสิบขึ้นไปกับประเภทที่มีส่วนประกอบของ แบเรียมซัลเฟตต่ำกว่าร้อยละเก้าสิบเอ็ด หรือมีความขาวต่ำกว่าร้อยละแปดสิบ ในอัตราร้อยละสองของราคาที่ อธิบดีประกาศตามประกาศของแร่นั้น
ข้อ 7 เบญจ ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่หินประดับ ในอัตราร้อยละสี่ของราคา ซึ่งอธิบดีประกาศ
ข้อ 7 ฉ ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่หินอุตสาหกรรมในอัคราร้อยละสี่ของราคา ซึ่งอธิบดีประกาศ
ข้อ 8 ให้เรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่อื่นในอัตราร้อยละของราคาที่อธิบดีประกาศตามอัตราค่าภาค หลวงแร่ท้ายกฎกระทรวงนี้
ให้ไว้ ณ วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2523
ลงชื่อ พลตรี ชาติชาย ชุณหะวัณ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
บัญชีแร่และอัตราค่าภาคหลวงแร่
ท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ 23 (พ.ศ. 2523) และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เลขลำดับ รายการ ค่าภาคหลวงแร่
ร้อยละของราคา
ซึ่งประกาศ 1 (ก) แร่ เกลือหิน 4 2 แกรไฟท์ 4 3 ควอทซ์ 4 4 เคโอลิไนท์ 4 5 แคลไซท์ 4 6 โคลัมเบียมตันตาลัม 5 7 โครไมท์ 4 8 ซีโนไทม์ 5 9 เซอร์กอน 4 10 โดโลไมท์ 4 11 ถูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 35 (พ.ศ. 2529) - 12 ทองแดง 10 13 ทัลค์ 4 14 แบไรท์ก้อน 7 15 ถูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 40 (พ.ศ. 2530) - 16 พลวง 10 17 พลวงที่ลนไฟแล้ว 10 18 ไพโรฟิลไลท์ 4 19 ฟอสเฟส 4 20 เฟลสปาร์ 4 21 ฟลูออไรท์ 7 22 ฟลูออไรท์ทางเคมี 4 23 มังกานีสที่ใช้งานทางโลหกรรม(1) ชนิดซิลิเซียส(2) ชนิดเฟอรูยินัส(3) ชนิดอื่น 2.52.52.5 24 มังกานีสที่ใช้ทำแบตเตอรี่ 7 25 มังกานีสที่ใช้สำหรับอุตสาหกรรมเคมี 4 26 แมกนีไซท์ 7 27 โมนาไซท์ 7 28 โมลิบเดไนท์ 10 29 ยิปซั่ม 4 30 ใยหิน 4 31 รูไทล์ 7 32 ถูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 35 (พ.ศ. 2529) - 33 เหล็ก 4.5 34 อิลเมไนท์ 2 35 ดินขาวสำหรับใช้ทำเครื่องกระเบื้อง เครื่องเคลือบ เครื่องซีเมนต์ เครื่องพลาสติก ดินเผาหรือวัตถุทนไฟ 4 36 ดินขาวสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษ 4 37 ดินขาวสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมเคมี 4 38 ดินทนไฟ 4 39 ดินเบาหรือไดอาตอมไมท์หรือไดอาตอมเมเซียสเอิร์ท 2 40 ดินสอพองหรือดินมาร์ล 4 41 ทรายแก้วหรือทรายขาวหรือทรายซิลิกา 4 42 ถ่านหิน 4 43 บอลเคลย์ 4 44-49 ถูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 53 (พ.ศ. 2539) - 50 หินอ่อน 4 51 สารหนู 7 52 อีเมอรี่ 4 53 การ์เนต 2 54 ลูโคซีน 2 55 ดิกไคต์ 4 56 พาโกไดต์ 4 57 หินสบู่ 4 58-63 ถูกยกเลิกโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 53 (พ.ศ. 2539) - 64 ไมกา 4 65 แอนโฮไดรต์ 4 1 (ข) โลหะ 2.5 ตะกั่ว 2 ทองแดง 2.5 3 พลวง 2.5 4 สังกะสี 2.5 5 เหล็ก 2 6 แคดเมียม 2.5 1 (ค) ตะกรัน 10 ที่มีแคดเมียมเจือปนอยู่ 2 ที่มีดีบุกเจือปนอยู่ 15 3 ที่มีตะกั่วเจือปนอยู่ 10 4 ที่มีทังสเตนไทรออกไซด์เจือปนอยู่ 15 5 ที่มีทองแดงเจือปนอยู่ 10 6 ที่มีนิกเกลเจือปนอยู่ 10 7 ที่มีบิสมัทเจือปนอยู่ 10 8 ที่มีสังกะสีเจือปนอยู่ 10 9 ที่มีสารหนูเจือปนอยู่ 10