 |
|
สถิติการส่งออกแร่ของประเทศไทย ปี 2561 - 2562 ช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน
|
การส่งออกแร่ในปี 2562 ช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน มีมูลค่าการส่งออก 10,486.9 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนในช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 8.25 ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 9,687.6 ล้านบาท
กลุ่มแร่โลหะพื้นฐาน (Base Metals) เป็นกลุ่มแร่ที่มีมูลค่าการส่งออกมากที่สุดคิดเป็นมูลค่า 4,461.8 ล้านบาท โดยโลหะดีบุก (Tin) มีมูลค่าการส่งออกสูงสุดถึง 4,170.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นการนำแร่ดีบุกมาถลุงเพื่อการส่งออก โดยปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าในช่วงเวลาเดียวกันจาก 5,968 เมตริกตัน เป็น 6,523 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.31 รองลงมาได้แก่ โลหะสังกะสี (Zinc) ซึ่งมีปริมาณการส่งออกลดลงจาก 2,708 เมตริกตันเหลือ 1,674 เมตริกัน และมูลค่าการส่งออกลดลงจาก 267.1 ล้านบาทเหลือเพียง 130.7 ล้านบาท
กลุ่มแร่ที่มีมูลค่าการส่งออกแร่รองลงมาได้แก่ กลุ่มแร่อุตสาหกรรมซีเมนต์ (Cement Industrial Minerals) มีมูลค่าการส่งออก 3,083.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.98 โดยแร่ยิปซัม (Gypsum) มีมูลค่าส่งออกสูงสุด 2,441.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นแร่ยิปซัมก้อน (Unground) ถึง 2,389.8 ล้านบาท โดยมีปริมาณการส่งออกเมื่อปี 2561 จำนวน 4.01 ล้านเมตริกตัน ลดลงในช่วงเวลาเดียวกันจากปีก่อนที่ 4.27 ล้านเมตริกตัน เนื่องจากราคาการส่งออกตลาดคู่ค้าต่างประเทศยังคงต่ำกว่าไทย จึงส่งผลให้ตลาดยิปซัมหันไปสนใจซื้อแร่จากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนแร่แอนไฮไดรต์ (Anhydrite) มีมูลค่าการส่งออก 642.8 ล้านบาท หดตัวลงร้อยละ 5.86
นอกจากนี้ยังมีการส่งออกแร่เฟลด์สปาร์ มีมูลค่าการส่งออก 1,258.6 ล้านบาท โดยส่งออกในรูปของโซเดียมเฟลด์สปาร์บด (Feldspar sodium (ground)) ขยายตัวมากถึงร้อยละ 158.81 และแร่โดโลไมต์ (Dolomite) มีมูลค่าการส่งออก 318.3 ล้านบาท โดยส่งออกในรูปของโดโลไมต์ก้อน (Unground) เป็นหลักซึ่งมีมูลค่าถึง 317.5 ล้านบาท |
|
|
