|
สถิติการนำเข้าแร่ของประเทศไทย ปี 2561 - 2562
|
สถานการณ์การนำเข้าแร่ในปี 2562 มีมูลค่าการนำเข้ารวม 62,189.9 ล้านบาท ลงลดจากปี 2561 ถึงร้อยละ 14.19 ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้า 72,819.8 ล้านบาท
โดยกลุ่มแร่เชื้อเพลิง (Mineral Fuels and Energy) ยังคงเป็นกลุ่มแร่หลักที่มีการนำเข้ามากที่สุดและต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตพลังงานที่จำเป็นต่อการผลิตไฟฟ้าและพลังงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 73.04 จากมูลค่าการนำเข้าแร่รวมทั้งหมด มูลค่าการนำเข้าในปี 2562 อยู่ที่ 45,422.7 ล้านบาท ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับปี 2561 มีมูลค่าการนำเข้า 53,934.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.78 โดยถ่านหินชนิดอื่นๆ (Coal Solid Fuels from Coal) และถ่านหินบิทูมินัส (Bituminous coal) ยังคงมีมูลค่าการนำเข้าอยู่ในอันดับสูงสุด อยู่ที่ 22,297.6 ล้านบาท และ 21,748.6 ล้านบาท ตามลำดับ
รองลงมาได้แก่ กลุ่มแร่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ (Other Industrial Minerals) มีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 6.36 ของมูลค่าการนำเข้าแร่รวมทั้งหมด รวม 3,955.7 ล้านบาท แร่ที่มีการนำเข้าสูงสุดในกลุ่มนี้ ได้แก่ แร่ทัลค์ (Talc) มีมูลค่าการนำเข้า 1,627.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.97
ในส่วนของ กลุ่มแร่โลหะพื้นฐาน (Base Metals) มีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 6.3 ของมูลค่าการนำเข้าแร่รวมทั้งหมด รวม 3,920.2 ล้านบาท ลดลงจากปี 2561 ซึ่งมีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 6.66 มูลค่ารวม 4,850 ล้านบาท สัดส่วนและมูลค่าลดลงร้อยละ 5.36 และ 19.17 ตามลำดับ แร่ที่มีการนำเข้าสูงสุดในกลุ่มนี้ ได้แก่ แร่ดีบุก (Tin ore) มีมูลค่าการนำเข้า 3,586.3 ล้านบาท ลดลงจากปี 2561 ที่มูลค่า 4,494.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.20 |
|
|