Mineral Import of Thailand 2019 - 2020 (First Quarter) สถิติการนำเข้าแร่ของประเทศไทย ปี 2562 – 2563 ไตรมาสแรก   กลุ่มสถิติและพัฒนาข้อมูล   ศสท.

 ไฟล์>> Click ที่นี่

	สถิติการนำเข้าแร่ของประเทศไทย ปี 2562 – 2563 ไตรมาสแรก  สถานการณ์การนำเข้าแร่ในปี 2563 ไตรมาสแรก ได้แก่ เดือนมกราคมถึงมีนาคม มีมูลค่าการนำเข้ารวม 16,174.5 ล้านบาท ลงลดจากปี 2562 ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้า 17,030.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.03 โดยกลุ่มแร่เชื้อเพลิง (Mineral Fuels and Energy) ยังคงเป็นกลุ่มแร่หลักที่มีการนำเข้ามากที่สุดและต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตพลังงานที่จำเป็นต่อการผลิตไฟฟ้าและพลังงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 79.8 จากมูลค่าการนำเข้าแร่รวมทั้งหมด มูลค่าการนำเข้าในปี 2563 อยู่ที่ 12,907 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2562 มีมูลค่าการนำเข้า 12,495.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.3 โดยถ่านหิน (Coal Solid Fuels from Coal) และถ่านหินบิทูมินัส (Bituminous Coal) ยังคงมีมูลค่าการนำเข้าอยู่ในอันดับสูงสุด อยู่ที่ 6,308 ล้านบาท และ 6,162.4 ล้านบาท ตามลำดับ รองลงมาได้แก่ กลุ่มแร่โลหะพื้นฐาน (Base Metals) มีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 6.38 ของมูลค่าการนำเข้าแร่รวมทั้งหมด รวม 1,031.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ซึ่งมีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 5.38 มูลค่ารวม 913.8 ล้านบาท สัดส่วนและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.89 และ 18.65 ตามลำดับ แร่ที่มีการนำเข้าสูงสุดในกลุ่มนี้ ได้แก่ แร่ดีบุก (Tin Ore) มีมูลค่าการนำเข้า 970.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มูลค่า 827.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.28 ในส่วนของ กลุ่มแร่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ (Other Industrial Minerals) มีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 5.6 ของมูลค่าการนำเข้าแร่รวมทั้งหมด รวม 906.3 ล้านบาท แร่ที่มีการนำเข้าสูงสุดในกลุ่มนี้ ได้แก่ แร่ทัลค์ (Talc) มีมูลค่าการนำเข้า 382.4 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2562 คิดเป็นร้อยละ 7.52