Mineral Import of Thailand 2019 - 2020 (Fiscal Year) สถิติการนำเข้าแร่ของประเทศไทย ปีงบประมาณ 2562-2563   กลุ่มสถิติและพัฒนาข้อมูล   ศสท.

 ไฟล์>> Click ที่นี่

	สถิติการนำเข้าแร่ของประเทศไทย ปีงบประมาณ 2563  การนำเข้าแร่ในช่วงปีงบประมาณ 2563 มีมูลค่าการนำเข้า 54,710.1 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีก่อน โดยมีมูลค่าการนำเข้า 68,950.6 ล้านบาท มีอัตราการนำเข้าลดลงร้อยถึงละ 20.65 โดยกลุ่มแร่เชื้อเพลิง (Mineral Fuels and Energy) ยังคงเป็นกลุ่มแร่หลักที่มีการนำเข้ามากที่สุดและต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตพลังงานที่จำเป็นต่อการผลิตไฟฟ้าและพลังงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้าสูงถึง 40,419.2 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 73.88 จากมูลค่าการนำเข้าแร่รวมทั้งหมด โดยมีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน คือ 50,530.1 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 73.28 มีมูลค่าลดลงถึงร้อยละ 20.01 สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ร้อยละ 0.81 โดยถ่านหินชนิดอื่นๆ (Coal Solid Fuels from Coal) และถ่านหินบิทูมินัส (Bituminous coal) มีมูลค่าสูงขึ้น มีมูลค่าการนำเข้าอยู่ในอันดับสูงสุด มีมูลค่าการนำเข้า 20,051 และ 19,266.7 ล้านบาท ตามลำดับ รองลงมาได้แก่ กลุ่มแร่โลหะพื้นฐาน (Base Metals) โดยมีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 8.44 มูลค่ารวม 4,619.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2562 ที่มีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 6.29 มูลค่ารวม 4,339.7 ล้านบาท ซึ่งแร่ดีบุก (Tin ore) มีมูลค่าการนำเข้าสูงสุดที่ 4,393.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 9.75 และแร่อลูมิเนียม (Aluminium ore) มีมูลค่าการนำเข้าสูงสุดรองลงมา 166.3 ล้านบาท แต่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนร้อยละ 32.6 และกลุ่มแร่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ (Other Industrial Minerals) มีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 6.07 ของมูลค่าการนำเข้าแร่รวมทั้งหมด มีมูลค่ารวม 3,320.4 ล้านบาท แร่ที่มีการนำเข้าสูงสุดในกลุ่มนี้ ได้แก่ แร่ทัลค์ (Talc) มีมูลค่าการนำเข้า 1,180 ล้านบาท มีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนร้อยละ 30.03 รองลงมาได้แก่ เบนโทไนท์ (Bentonite) มีมูลค่าการนำเข้า 739.9 ล้านบาท มีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนร้อยละ 3.44