Mineral Import of Thailand 2019 - 2020 สถิติการนำเข้าแร่ของประเทศไทย ปี 2562 - 2563 
 กลุ่มสถิติและพัฒนาข้อมูล 
 ศสท. 

 ไฟล์>> Click ที่นี่
 *สถิติการนำเข้าแร่ของประเทศไทย ปี 2562 - 2563 
สถานการณ์การนำเข้าแร่ในปี 2563 มีมูลค่าการนำเข้ารวม 56,843.7 ล้านบาท ลงลดจากปี 2562 ร้อยละ 8.60 ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้า 62,189.9 ล้านบาท
โดยกลุ่มแร่เชื้อเพลิง (Mineral Fuels and Energy) ยังคงเป็นกลุ่มแร่หลักที่มีการนำเข้ามากที่สุดและต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตพลังงานที่จำเป็นต่อการผลิตไฟฟ้าและพลังงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้าสูงถึง 42,013.8 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 73.91 จากมูลค่าการนำเข้าแร่รวมทั้งหมด โดยมีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน คือ 45,422.7 ล้านบาท มูลค่าลดลงร้อยละ 3.41 โดยถ่านหินชนิดอื่นๆ (Coal Solid Fuels from Coal) และถ่านหินบิทูมินัส (Bituminous coal) ยังคงมีมูลค่าการนำเข้าอยู่ในอันดับสูงสุด อยู่ที่ 21,537.8 ล้านบาท และ 19,369.4 ล้านบาท ตามลำดับ
รองลงมาได้แก่ กลุ่มแร่โลหะพื้นฐาน (Base Metals) มีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 8.93 มูลค่าการนำเข้ารวม 5,074.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งมีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 6.30 มูลค่ารวม 3,920.2 ล้านบาท ทั้งสัดส่วนและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.61 และ 29.44 ตามลำดับ โดยแร่ที่มีการนำเข้าสูงสุดในกลุ่มนี้ ได้แก่ แร่ดีบุก (Tin ore) มีมูลค่าการนำเข้า 4,782.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มูลค่า 3,586.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.35 และแร่อลูมิเนียม (Aluminium ore) มีมูลค่าการนำเข้าสูงสุดรองลงมา 173.2 ล้านบาท แต่ลดลงจากปีก่อนที่มูลค่า 248.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละร้อยละ 30.35
และกลุ่มแร่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ (Other Industrial Minerals) มีสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 5.86 ของมูลค่าการนำเข้าแร่รวมทั้งหมด มีมูลค่ารวม 3,331.2 ล้านบาท แร่ที่มีการนำเข้าสูงสุดในกลุ่มนี้ ได้แก่ แร่ทัลค์ (Talc) มีมูลค่าการนำเข้า 1,219.7 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มูลค่า 1,627.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.07 รองลงมาได้แก่ เบนโทไนท์ (Bentonite) มีมูลค่าการนำเข้า 683.7 ล้านบาท มีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มูลค่า 763.2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.42