บทคัดย่อ
|
รายงานวิชาการฉบับนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาผลกระทบของระเบียบว่าด้วยสารเคมีของสหภาพยุโรปกับอุตสาหกรรมโลหะของไทย โดยมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโลหะมีความตื่นตัวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยเริ่มต้นจากประวัติความเป็นมาของกลุ่มสหภาพยุโรป ประวัติความเป็นมาของระเบียบว่าด้วยสารเคมีของสหภาพยุโรป (Registration Authorization and Restriction of Chemical Substances: REACH) การนำเข้าและการส่งออกโลหะของประเทศไทย ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากระเบียบดังกล่าว ตลอดจนข้อคิดเห็นต่างๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลให้กับภาครัฐและเอกชน ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป |
ในแต่ละปีประเทศไทยมีการส่งออกโลหะ ได้แก่ อะลูมิเนียม ทองคำ เงิน แพลทินัม เหล็ก แทนทาลัม ทองแดง ดีบุก และไทเทเนียม มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2548 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน ปริมาณการส่งออกเหล็กของประมาณ 145,846 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 3,614 ล้านบาท หากพิจาณาโลหะที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุดคือ ทองคำและเงิน ตามลำดับ ปริมาณการส่งออกรวม 23,755 ตัน โดยมีมูลค่าทั้งสิ้น 8,037 ล้านบาท |
สำหรับการนำเข้าเข้าโลหะของไทย สูงสุด ได้แก่ อะลูมิเนียม เหล็ก (ท่อเหล็กไร้สนิม และท่อเหล็ก) ทองคำ และนิกเกิล เป็น ปี 2548 (มกราคม ถึง มิถุนายน) มีการนำเข้ารวมทั้งสิ้น 227,763 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 15,006 ล้านบาท |
ผลการศึกษาพบว่า หากมีการประกาศใช้ระเบียบว่าด้วยสารเคมีของสหภาพยุโรป ซึ่งระเบียบดังกล่าวมีผลดีต่อสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม แต่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโลหะในประเทศไทยได้ โดยต้นทุนการผลิตอาจสูงขึ้นเนื่องจากต้นทุนสารเคมีที่สูงขึ้น และผู้ผลิตอาจผลักภาระด้านค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภคต่อไป |
......ผู้สนใจสามารถ download ไฟล์เอกสารในรูปแบบของ .pdf ไฟล์ เพื่อศีกษาจากด้านบน...... |