สรุปข้อดีข้อเสียของเทคโนโลยีการผลิตเหล็กขั้นต้นในกลุ่มต่าง ๆ
SHAFT
GROUP : MIDREX, HYL III, AREX
|
|
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
- ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
|
- ไม่เหมาะกับประเทศที่มีราคาแก๊สสูง
|
- ได้รับการยอมรับและผลิตในระดับอุตสาหกรรม
|
- ต้นทุนวัตถุดิบสูง
เนื่องจากใช้แร่ก้อน หรือ
|
- มีข้อมูลในการผลิตและการดำเนินงาน
|
แร่ก้อนอัดเม็ด คุณภาพสูง
|
รวมทั้งข้อมูลเชิงเศรษฐศาสตร์มากเพียงพอ
|
- ความยืดหยุ่นของกระบวนการน้อย
|
- ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย
|
- ไม่มีการนำของเสียจากกระบวนการกลับมาใช้
|
- ปราศจาก
export gas
|
ประโยชน์ใหม่
|
FLUID
BED GROUP : FIOR , CIRCOFER, CIRCORED,
FINMET, IRON CARBIDE
|
|
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
- ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
|
- เงินลงทุนสูง
|
- ต้นทุนด้านวัตถุดิบต่ำ
เนื่องจากใช้แร่เหล็กผง
|
- ต้นทุนราคาแก็สสูงในบางประเทศ
(ยกเว้น กระบวนการ
|
- ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
|
CIRCOFER ซึ่งใช้ถ่านหินเป็นสารถลุง)
|
- ปราศจากแก็สที่ปล่อยออกจากกระบวนการ
|
- มีความอ่อนไหวต่อ ขนาดและคุณภาพของแร่เหล็ก
|
|
- กระบวนการผลิตควบคุมและดำเนินการผลิตยาก
|
|
- ข้อมูลการผลิตเชิงอุตสาหกรรมยังน้อย
|
ROTARY
HEARTH GROUP : INMETCO, FASTMET
|
|
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
- ได้รับการยอมรับในระดับอุตสาหกรรม
|
- ผลิตภัณฑ์คุณภาพต่ำเนื่องจาก
การตกค้างของกำมะถัน
|
- เหมาะกับกำลังการผลิตขนาดเล็ก
|
จาก กระบวนการเตรียมวัตถุดิบ
|
- ใช้แร่เหล็กผงและ
ถ่านหินเป็นสารถลุง
|
- กำลังการผลิตถูกจำกัด
|
- กระบวนการผลิตมีความยืดหยุ่น
|
|
- กระบวนการถลุงใช้เวลาน้อย
เนื่องจากอุณหภูมิสูง
|
- จำเป็น
ต้องมี off gas treatment ที่พอเพียง
|
- งบประมาณการลงทุนและดำเนินการต่ำ
|
- มีการปลอมปนของอโลหะในผลิตภัณฑ์ มาก
|
- สามารถนำกากจากกระบวนการมาหมุนเวียน
เป็น
|
- ความหนาแน่นของผลิตภัณฑ์ต่ำ
|
วัตถุดิบ
|
- จำเป็นต้องมีกระบวนการบำบัดแก็สที่ปล่อยออก
|
|
|
|
- อัตราการใช้ถ่านหินสูง
|
SMELT
REDUCTION GROUP : AISI , DIOS , FINEX
, HISMELT , ROMELT , TECNORED
|
COREX
, AUSMELT, NST
|
|
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
- ได้ผลิตภัณฑ์ในรูปของเหลว
|
- ยังขาดข้อมูลการผลิตในระดับอุตสาหกรรม
|
- ใช้ถ่านหินเป็นสารถลุง
|
ยกเว้น COREX
|
- ใช้แร่เหล็กผง
(ยกเว้นกระบวนการ COREX)
|
- แก๊สที่ปล่อยออกมามีจำนวนมากที่ต้องถูกนำไปใช้
|
- เหมาะกับการผลิตในระดับเล็กและระดับกลาง
|
ประโยชน์
|
- ไม่ต้องการพลังงานไฟฟ้า
|
- ต้องการออกซิเจนปริมาณมาก
|
|
- เป็นกระบวนการผลิตที่มีความยืดหยุ่นน้อย
|
ROTARY
KILN GROUP : SL/RN, DRC
|
|
|
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
- ได้รับการยอมรับระดับอุตสาหกรรม
|
- ผลิตภัณฑ์คุณภาพต่ำเนื่องจาก
ซัลเฟอร์ และ กากแร่
|
- รูปร่างแร่ไม่สำคัญ และ ใช้ถ่านหินเป็นสารถลุง
|
- กระบวนการถลุงใช้เวลานาน
|
- กระบวนการผลิตไม่ซับซ้อน
|
- กำลังการผลิตจำกัด
|
- เหมาะกับการผลิตในระดับเล็ก
|
- จำเป็นต้องมีกระบวนการบำบัดแก็สที่ปล่อยออก
|
|
มาอย่างพอเพียง
|
|
|
|
- อัตราการใช้ถ่านหินสูง
|
ROTARY
HEARTH + ELECTRIC MELTER GROUP : REDSMELT , FASTSMELT
|
|
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
- ได้ผลิตภัณฑ์ในรูปของเหลว
|
|
- ใช้แร่เหล็กผง
และใช้ถ่านหินเป็นสารถลุง
|
- มีข้อจำกัดด้านกำลังการผลิต
|
- เหมาะกับการผลิตในระดับเล็ก
|
- มีเพียงไม่กี่โรงงานเท่านั้นที่ทำการผลิต
|
- ปราศจากแก็สที่ปล่อยออกจากกระบวนการ
|
- จำเป็น
ต้องมี Off gas treatment ที่เพียงพอ
|
|
- ต้องการพลังงานไฟฟ้า
|
|
|
แนวโน้มเทคโนโลยีในการผลิตเหล็กขั้นต้นในช่วง 5 10 ปีข้างหน้า
เทคโนโลยีในการผลิตเหล็กขั้นในโลกมีการพัฒนาเพื่อมุ่งไปสู่จุดมุ่งหมายหลักสามประการคือ การควบคุมต้นทุนการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน และการควบคุมผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณาแนวโน้มในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเหล็กขั้นต้นในอนาคตจึงได้ทำการรวบรวมสรุปปริมาณการใช้วัตถุดิบสำหรับการผลิตเหล็กขั้นต้น 1 ตัน ด้วยกระบวนการที่แตกต่างกัน ในตารางที่ 4.31 และแนวทางการวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเหล็กขั้นต้นในอนาคตในโลก โดยแบ่งตามเทคโนโลยีการผลิตดังนี้
กระบวนการ Blast Furnace
1) การพัฒนากระบวนการ Blast Furnace มีขนาดเล็กลงเพื่อลดงบประมาณการลงทุนชั้น คุณภาพของแร่เหล็กและถ่านหิน และลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม โดยมีการพัฒนา Blast Furnace ในขนาด 0.6 - 1.0 ล้านตัน (compact blast furnace) และ 0.1 - 0.3 ล้านตัน (mini blast furnace)
2) เพื่อลดปริมาณแก๊สทิ้งที่เป็นมลพิษทางอากาศ จากกระบวนการเผาถ่านหินให้เป็น ถ่านโค้ก มีการพัฒนานำถ่านหินละเอียดมาใช้โดยพ่นเข้าไปในรูพ่นลม (tuyeres) โดยปริมาณจำกัด ในอดีตที่ 120 กิโลกรัมต่อตันของน้ำเหล็ก จากการพัฒนาเตาเผาอากาศ (hot blast stove) ให้สามารถเผาอากาศร้อนที่อุณหภูมิ 1300 องศาเซลเซียส และเพิ่มปริมาณออกซิเจนในอากาศที่พ่นเข้าเตาประมาณ 2 4 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ปริมาณจำกัดในปัจจุบันเพิ่มขึ้นที่ระดับ 200 250 กิโลกรัมต่อตันของน้ำเหล็ก) เพื่อเพิ่มสมบัติของแร่เหล็กให้มีความแข็งแรงในการใช้กับ CBF (compact blast furnace) และ MBF (mini blast furnace)
3) เพื่อเพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพของกระบวนการ โดยการตรวจวัดในลักษณะ เครือข่าย เพื่อให้เกิดการจำลองสภาวะที่เหมาะสมโดยการปรับเปลี่ยนค่าตัวแปรต่าง ๆ ของระบบการพัฒนาอุปกรณ์ในการตรวจวัดแก๊สที่ไหลออกจากกระบวนการ
การถลุงในสภาพหลอมเหลว
ปัญหาของเทคโนโลยีเนื่องจากเทคโนโลยียังอยู่ในช่วงการพัฒนาโรงงานทดลองหรือการปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิต แต่ยังขาดกระบวนการที่สามารถทำการ pre-reduction แร่เหล็กก่อนเข้าสู่อ่างหลอมเหลว การถ่ายเทความร้อนจากแก๊สที่ออกจากระบบกับแก๊สที่เข้าสู่ระบบที่มีประสิทธิภาพ การกำจัดกำมะถันออกจากน้ำเหล็กยังขาดกการพัฒนากระบวนการที่เหมาะสมเชิงพาณิชย์ โดยมีแนวทางในการพัฒนาดังนี้
1) การพัฒนาการถ่ายเทความร้อนจากแก๊สออกจากระบบให้กับเข้าระบบ
2) พัฒนาระบบของเครื่องจักรให้สอดคล้องกับการผลิตจริง
3) พัฒนากระบวนการควบคุมการผลิตเชิงปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนตั้งแต่การทำ pre-reduction จนถึงกระบวนการหลอมละลาย
4) พัฒนากระบวนการกำจัดกำมะถันในน้ำเหล็กที่เหมาะสมเชิงพาณิชย์
|