ปี พ.ศ. 2527 – 2533 Maxhutte ประเทศเยอรมันเปิดดำเนินการในรูปของ pilot plant ขนาดเล็ก มีกำลังการผลิต 10,000 ตันต่อปี เป็นความร่วมมือระหว่าง Rio Tinto และ Kloeckner werke ใช้ horizontal vessel

ปี พ.ศ. 2534 Kwinana plant ประเทศออสเตรเลีย เปิด pilot plant ด้วยกำลัง การผลิตโลหะเหลว 0.1 ล้านตันต่อปี ศึกษาโดย HIsmelt research and development facilities (HRDF) ใช้ rotating horizontal vessel (heart diameter vessel เท่ากับ 2.7 เมตร) vessel มีการหมุนเพื่อป้องกันการ สึกหรอ ในส่วนของ injection tuyreres ต่อเข้ากับ circulating fluidised bed สำหรับลดอุณหภูมิและทำความสะอาด offgas และ pre-reduction แร่เหล็ก โดยแร่เหล็กและถ่านหินถูกฉีดผ่านเข้าทาง bottom tuyeres ซึ่งอยู่ภายใน refractory lined horizontal smelt reduction vessel (SRV) โดยทำการศึกษาในช่วงปี พ.ศ. 2533 - 2539 ซึ่งถือว่าการทดลองใช้งานประสบความสำเร็จ

ปี พ.ศ. 2539 – 2543 พัฒนาเป็น Commercial Plant เปลี่ยนจากเดิมใช้ horizontal smelt reduction vessel มาเป็น Water-cooled refractory lined vertical vessel ซึ่งข้อดีของการใช้ vertical smelt reduction vessel คือ เพิ่มอายุการใช้งานของ vessel และเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต ตลอดจนทำให้กระบวนการผลิตสะดวกขึ้นเพิ่มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเตา 6 m SRV (Smelt Reduction Vessel) ทำงานที่ความดันประมาณ 80 kPa ภายใน top space ภายใน vessel ประกอบด้วย refractory lined hearth และ water – cooled panel ภายใน refractory hearth มีอ่างหลอมเหลว โดยการศึกษาเสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2543 โดยปรับเปลี่ยนและเพิ่มอุปกรณ์บางส่วนโดยเปลี่ยน bottom tyreres มาใช้ water-cooled top lances เพื่อใช้ฉีดวัตถุดิบป้อนเข้า เปลี่ยน top hot air blast (HAB) tuyere ด้วย fixed HAB lance เพิ่ม foreheart สำหรับแยกเหล็กหลอมเหลวที่ได้ ออกจากตะกรัน